Cute Black Flying Butterfly

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ชนะทุกข์ สุขก็มา
    ถ้าคุณคิดว่ารักแล้วจะต้องครอบครอง รักแล้วจะต้องอยู่คู่กันนิรันดร หรือรักแล้วจะต้อง….อื่นๆ อีกมากมาย เพียงแค่คุณก็ทุกข์เสียแล้ว ความรักเพิ่งเริ่มก่อตัวเป็นวุ้น แต่คุณกลับคาดหวังไปไกลถึงดาว เคยลองถามคู่รักของคุณบ้างหรือเปล่าว่าเขาอยากไปไกลถึงดวงดาวพร้อมกับคุณหรือเป่ลา เมื่อไม่ใช่สุดท้ายก็เกิดปัญหาทุกคู่
      หากเพียงมองรอบตัวด้วยใจเปิดกว้าง ด้วยมุมมองที่เป็นบวก คุณรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่คุณเคยคาดหวังเมื่อมองกลับไปอีกครั้งคุณอาจบอกตัวเองว่า ทำไมตอนนั้นเราจึงเลือกที่จะจมปลักอยู่กับความทุกข์ ทั้งๆ ที่เราสามารถเอาชนะความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้ โดยผู้ที่จะฉุดคุณขึ้นมาจากบ่อแห่งความทุกข์นั้นก็คือตัวคุณเอง
      คำถามนี้จะเกิดขึ้นเมื่อคุณได้เอาชนะความทุกข์นั้นมาได้แล้ว แต่ ณ เวลาที่ยังไม่สามารถฉุดใจขึ้นมาได้ อยากให้คุณลองอ่าแล้วลองปฏิบัติตามคำแนะนำ ชนะทุกข์ สุขก็มา เอาชนะทุกข์ที่เกิดจากความรัก แล้วคุณจะลุกขึ้นยืนได้อย่างสมศักดิ์ศรี พร้อมด้วยความภาคภูมิใจว่า ฉันสามารถเอาชะทุกข์ปัญหาที่เกิดจากความรักได้ด้วยพลังของตัวเอง รักตัวเองเสียบ้าง ก่อนให้ความรักกับคนที่ไม่เห็นคุณค่า
       ความรักเป็นความรู้สึกดีๆที่ก่อเกิดขึ้นมาในหัวใจของเรา เป็นสิ่งที่ใครต่างปรารถนาจะครอบครองแม้บางครั้งความรักอาจทำร้ายจิตใจของเราบ้าง แต่มันก็คุ้มค่าพอที่จะยอมแลก เพื่อความสุขในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานหรือเพียงช่วงเวลาสั้นๆ คนส่วนใหญ่ปรารถนาความรัก แต่น้อยคนนักที่จะเข้าใจคำว่ารักอย่างแท้จริง จึงไม่หน้าแปลกที่บางครั้งความทุกข์จะเข้ามาวนเวียนในชีวิตรัก มันคงดีไม่น้อยหากเรามีความรักโดยปราศจากความทุกข์ใดๆ






เมื่อคนรักของเราจากไปกะทันหัน
         การพลัดพรากจากลาคนที่เรารักอย่างไม่มีวันกลับนั้น  อาจเป็นเรื่องที่คนธรรมดาอย่างเรายอมรับได้  หากการสูญเสียเป็นไปตามอายุขัยหรือวงจรของชีวิต  เราคงทำใจยอมรับได้อย่างไม่ยากเย็นเพราะอย่างน้อยเราเองก็ตระหนักอยู่เสมอถึงกฎแห่งการเปลี่ยนแปลง  กฎที่ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถหลีกหนีได้  แต่หากการสูญเสียนั้นก็อาจสร้างความเจ็บปวดทางใจให้กับเราอย่างมากที่สุด  หยาดน้ำตาที่หลั่งรินอาบสองข้างแก้ม  คงเป็นสิ่งที่สะท้อนให้คนทั่วไปเห็นว่า  เราเจ็บปวดและเสียใจมากแค่ไหน  หัวใจของเราแทบสลายเมื่อรู้ว่าคนที่เรารักจากไปอย่างไม่มีวันกลับ  และเราจะเป็นทุกข์กับการสูญเสียคนที่เรารัก  เราอาจจะร้องห่มร้องไห้ใจแทบขาดเมื่อสิ่งที่เรากับเขาวาดหวังไว้ต้องพังทลายลง  เราอาจแทบสิ้นสติเมื่อความรักที่เรามีให้กับเขาได้ดับสลายไปพร้อมกับความสูญเสีย  เราอาจคิดว่าการตายคือการสิ้นสุดของชีวิต  และเมื่อเรานำตัวเองเข้าไปผูกติดกับชีวิตของคนที่เรารัก  เราก็จะพบว่ามันช่างยากเหลือเกินที่จะดำเนินชีวิตต่อไปโดยปราศจากคนรักของเรา  จริงอยู่ที่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่  แต่หากเราไม่ยอมเปิดใจที่จะเรียนรู้ถึงความจริงของชีวิต  แล้วเราจะเข้าใจชีวิตได้อย่างไร  ความจริงที่ว่าเราทุกคนต่างต้องเผชิญกับความสุข  ความทุกข์  ความเศร้าโศก  และความผิดหวังในชีวิต  การปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ไม่เคยทำให้เราพบกับความสุขอย่างแท้จริง  หากแต่เรากำลังสร้างวังวนแห่งความทุกข์มาล้อมกรอบจิตใจของเราเอง  ความสุขในรูปแบบของมนุษย์จึงอยู่ที่การเรียนรู้  อยู่ที่การยอมรับความเปลี่ยนแปลง  และพร้อมจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีสติ  คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเสียน้ำตาให้กับคนนี่เรารัก  เพราะเราก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่มีเลือดเนื้อ  มีความรู้สึก  มีความผูกพัน  แต่หากเราปล่อยให้ความอาลัยนั้นเข้ามาบั่นทอนชีวิตและจิตใจให้เศร้าหมอง  คนที่เรารักก็อาจจากไปอย่างเป็นทุกข์แล้วเราจะยอมให้คนรักของเราจากไปอย่างไม่สงบงั้นหรือ
        การตายแม้จะเป็นจุดจบของชีวิต  แต่นั่นไม่ใช่การสลายหายไปจากโลกใบนี้  คนรักของเรายังคงอยู่  แต่อาจไม่ได้อยู่กับเราก็เท่านั้นเอง  หากเราเรียนรู้ชีวิตอย่างดีแล้ว  เราจะพบว่าชีวิตคือการเวียนว่ายตายเกิด  เกิดแล้วดับ  ดับแล้วเกิด  การตายจึงเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ของชีวิต  เพราะฉะนั้นมันคงไม่มีประโยชน์อะไรหากเราจะจมอยู่กับความทุกข์เพราะมัวอาลัยอาวรณ์คนรัก


หลงรักคนมีเจ้าของ
         ความรักที่เราสอบให้กับคนที่เรารักแต่ไม่เคยได้รักกลับมานั้น  ย่อมทำให้เราทุกข์ใจเสมอ  แม้ความรักจะก่อให้เกิดทุกข์อย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ  แต่หากเราลองคิดทบทวนให้ดี  เราจะพบว่าตัวเราเองที่เป็นผู้ก่อทุกข์จากความรัก  ทุกข์เพราะปรารถนาความรักจากคนที่เรารัก  ทุกข์เพราะไม่กล้าเปิดเผยใจให้ใครรู้  ทุกข์เพราะคนๆนั้นไม่เห็นคุณค่าของการกระทำของเราคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะ หว่านพืชเพื่อหวังผล เพราะมันเป็นกฎของธรรมชาติ  หากเราปรารถนาให้คนอื่นเชื่อใจ  เราต้องซื่อสัตย์กับเขาเสียก่อน   หากเราปรารถนาให้คนอื่นเห็นค่าในตัวเรา  เราก็ต้องปฏิบัติกับคนอื่นอย่างมีค่าเช่นกัน  แต่กฎทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้น  เช่นเดียวกับกฎแห่งความรัก  หากสิ่งที่เราทำไปทั้งหมดนั้นเพื่อปรารถนาความรักจากเขา  เราจะไม่มีวันพ้นทุกข์ทางใจได้  เพราะเรานำชีวิตตัวเองไปผูกติดกับ การเปลี่ยนแปลงทางใจ เมื่อใดที่เราได้รับผลตอบแทนทางใจที่ตอบสนองความพอใจของเรา   เมื่อนั้นเราจะยินดีมีความสุข  แต่เมื่อใดที่เราขาดทุนทางใจ  ความรักที่มอบให้เขาไม่ได้รับการตอบสนอง  เมื่อนั้นเราจะติดกับดักแห่งความทุกข์  เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วทำไมเราถึงปล่อยอารมณ์ของตัวเองให้ล่องลอยไปตามกระแสลม  ในเมื่อเราเองสามารถควบคุมอารมณ์ของเราได้  ความรักไม่ใช่เรื่องของการแลกเปลี่ยนระหว่างใจกับใจเท่านั้น  มันมีความหมายมากกว่าการแลกเปลี่ยนทางรูปธรรม  ความรักเป็นพลังที่ค่อยๆ  ถ่ายโอนความารู้สึกดีๆ  ระหว่างกันและกันจนกว่าคนสองคนจะสัมผัสถึงความรักที่สมดุลฉันเองก็เคยเป็นคนหนึ่งที่หลงรักคนมีเจ้าของแล้ว ตอนนั้นฉันได้แต่หวังว่าเขาจะมีใจให้ฉันบ้าง ฉันไม่ได้หวังให้เขาเปลี่ยนใจมาชอบเลยเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ฉันคงรู้สึกผิดมากที่ทำให้เขาต้องเลิกรากับคนรัก สิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนั้นคือ พยายามทำทุกสิ่งเพื่อให้เขาเห็นค่าของฉัน แต่ฉันกลับพบว่ายิ่งทุ่มเททำเพื่อเขามากเท่าไหร่ มันกลับทำให้ฉันทุกข์มากเท่านั้น เมื่อเขาไม่เคยเห็นคุณค่าของการกระทำของฉันเลย ฉันจึงพยายามทำใจเลิกคิดหวังถึงความรู้สึกดีๆ ที่ไม่มีวันได้รับจากเขา แต่เหมือนว่ายิ่งฉันพยายามยับยั้งใจมากเท่าไหร่ ความทุกข์ที่เกิดก็ไม่มีวีแววว่าจะลดน้องลง ฉันเพิ่งได้เรียนรู้ภายหลังว่าสิ่งที่ทำให้ฉันมีความทุกข์นั้น คือความหวังและการปรารถนาความรู้สึกดีๆ จากเขาเป็นการตอบแทน เมื่อเป็นเช่นนี้ฉันจึงลดความหวังและเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า ความรักไม่ใช่เรื่องของการให้แล้วจำเป็นต้องได้รับเสมอไป
       

แอบรักเพื่อน
                  ครีม สาวน้อยผู้เหนียมอายมักจะมีความสุขกับการได้เขียนไดอารีบันทึกความทรงจำ ทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของครีมจะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นถ่อยคำที่เรียบเรียงกันอย่างปราณีต และหนึ่งในเรื่องราวนั้นก็มีเรื่องของเฟีย หนุ่มที่ครีมหลงรักมานาน ครีมไม่เคยปริปากหรือแสดงอาการให้เฟียรู้เลยว่าเธอแอบรักมากแค่ไหนแม้กระทั่งเพื่อนสนิทของเธอก็ไม่รู้เช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่ครีมได้พบกับเฟีย เธอรู้สึกตื่นเต้นและดีใจจนทำตัวไม่ถูก เธออยากจะเข้าไปพูดคุยกับเขาเหลือเกิน แต่เธอเองไม่กล้าจึงได้แต่ยืนเงียบและยิ้มรับเท่านั้น วันเวลาผ่านไปหลายปี ความรักที่เธอมีต่อเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ครีมรู้สึกอึดอัดและทุกข์ใจอย่างมากที่ต้องทนเก็บความรู้สึกนั้นไว้เพียงคนเดียว ครีมไม่กล้าบอกความในใจกับเฟีย เพราะกลัวว่าเขาจะปฏิเสธเธอ และกลัวว่าความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไป ครีมได้แต่ระบายความรู้สึกออกมาเป็นตัวหนังสือเท่านั้น แต่ยิ่งเธอเขียนมากเท่าไหร่ เธอพบว่ามันไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขเหมือนกับเรื่องราวอื่นๆ ที่เธอเคยเขียนมา กระดาษแต่ละหน้าที่เธอเขียนเกี่ยวกับเฟียนั้นจะมีคราบน้ำตาติดมาทุกครั้ง ครีมเคยคิดจะหยุดเขียนและตัดใจจากเฟีย แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่สามารถทำได้ เธอรู้สึกว่าในชีวิตของเธอไม่มีความสุขเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ เลย เมื่อเธอไม่สามารถหาความสุขจากโลกแห่งความเป็นจริงได้ เธอจึงเริ่มสร้างภาพฝันระหว่างเธอกับเขาขึ้นมา ครีมมีความสุขกับความฝันนั้นมาก แต่ทุกครั้งที่ลืมตาเธอก็ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า เธอกับเขายังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนกระทั่งวันหนึ่ง โดนัท เพื่อนสนิทของเธอมาหาเธอที่บ้าน เธอจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับโดนัทฟัง โดนัทได้บอกให้ครีมพูดความในใจกับเฟียไปซะ ความรู้สึกที่อึดอัดและความทุกข์จะได้หายไปเสียที ครั้งแรกครีมปฏิเสธที่จะทำตาม เพราะครีมไม่รู้ว่าการที่เธอบอกความรู้สึกกับเฟียนั้น จะทำให้เธอหมดทุกข์หรือยิ่งทุกข์หนักกว่าเก่ากันแน่ แต่สุดท้ายครีมก็ยอมบอกความในใจกับเฟีย ครีมรวบรวมความกล้าเดินหน้าเข้าไปหาเฟีย ณ ตอนนั้นเธอพร้อมที่จะยอมรับคำตอบของเขา เธอคิดว่ามันน่าจะถึงเวลาแล้วที่เธอจะบอกความในใจกับคนที่เธอรัก ดีกว่าจะมานั่งเสียใจภายหลังไม่ได้บอกความรู้สึกออกไป เธอพูดคุยกับเฟียสักพักใหญ่ แล้วเธอก็เดินจากมาด้วยสีหน้าและรอยยิ้มอย่างมีความสุข ไม่มีใครรู้เลยว่าเฟียปฏิเสธหรือยอมรับรักครีม แต่ที่แน่ๆ เธอกลับมีความสุขที่ได้เปิดเผยความในใจกับคนที่เธอแอบรัก ถึงตอนนี้เธอได้รู้ความจริงแล้วว่า ความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ว่าเฟียจะรับรักเธอหรือไม่ แต่อยู่ที่เธอได้บอกความรู้สึกดีๆ กับเขาต่างหาก


           ใครหลายคนอาจประสบพบเจอกับเหตุการณ์เช่นเดียวกับครีมแต่จะมีสักกี่คนที่กล้าเปิดเผยความในใจกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น เพื่อน มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายดายนักที่จะเอ่ยความรู้สึกนั้นออกไป และมันก็เป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้หากเราจะแอบรักเพื่อนตัวเอง ทางออกของปัญหาอาจมีอยู่แค่สองทางคือ หนึ่ง ยอมปิดบังความรู้สึกนั้นไว้ เพราะกลัวคำตอบจะทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนไป สอง ยอมเปิดเผยความในใจโดยไม่หวังว่าคำตอบจะออกมาเป็นอย่างไร ไม่ว่าเราจะเลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีใด เราต้องแน่ใจเสียก่อนว่าวิธีนั้นจะทำให้เราพบกับความสุขอย่างแท้จริง บางคนอาจไม่ต้องการอะไรมากมาย แค่ได้แอบรักและเก็บความรู้สึกนั้นไว้ก็เพียงพอที่จะทำให้มีความสุข ขณะที่ความสุขของใครบางคนอาจเป็นการเปิดเผยความในใจออกไป แต่อย่างไรซะ หากเราเลือกที่จะเปิดเผยความในใจกับคนที่เราแอบรัก เราก็ต้องยอมเสี่ยงกับความผิดหวัง หากคำตอบคือ ใช่ มันก้เป็นการคุ้มค่าที่บอกความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ แต่หากคำตอบคือ ไม่ เราก็ต้องยอมรับกับคำตอบนั้น และปล่อยให้ความสัมพันธ์แบบเพื่อนดำเนินต่อไป คำว่า เพื่อน นั้นยิ่งใหญ่ไม่แพ้คำว่า คู่รัก หากเรารู้จักถนอมมิตรภาพให้ยาวนาน ก็ไม่มีอะไรมาพรากความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันได้
          
            อ้างอิงผู้แต่ง อักษรภัค